ชีวิตประจำวันของเรา บางคนก็บอกว่าอยากมีเวลาสัก 48 ชม. ต่อวัน เพราะทำอะไรไม่ทันเลย ทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว รวมถึงเรื่องของคนอื่นด้วย!
การจัดการเวลาจึงเป็นทักษะที่เราต้องพัฒนาเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างสมดุล วันนี้เราจะพูดถึง 5 วิธีในการจัดการเวลาให้ชีวิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวได้ดีขึ้นครับ
อย่างน้อยทำได้สัก 1-2 ข้อก็ถือว่าโอเคมากแล้วครับ ไปลุยกัน แล้วเลือกมาสัก 1-2 ข้อนะ
1. ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน
การตั้งเป้าหมายเป็นการกำหนดทิศทางในการใช้เวลา เมื่อเราไม่รู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร เวลาก็จะหมดไปโดยไม่มีประโยชน์และผลลัพธ์ที่ชัดเจน การตั้งเป้าหมายจะช่วยให้คุณสามารถโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญและลดการทำสิ่งที่ไม่จำเป็น
ตัวอย่าง:
หากคุณมีเป้าหมายในการลดน้ำหนัก การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่า “ฉันจะออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์” จะช่วยให้คุณจัดการเวลาสำหรับการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น และยังทำให้คุณไม่หลงไปทำกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายนี้
เคล็ดลับ:
- ใช้หลัก SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound) ในการตั้งเป้าหมาย เพื่อให้เป้าหมายของคุณมีความชัดเจนและสามารถทำได้จริง
2. ลำดับความสำคัญให้ดี
การลำดับความสำคัญเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการเวลา เพื่อให้คุณได้ทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนและไม่เสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
วิธีทำ:
- ใช้หลัก Eisenhower Matrix ซึ่งแบ่งกิจกรรมเป็น 4 หมวด:
- สำคัญและเร่งด่วน (ต้องทำทันที)
- สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน (ทำเมื่อมีเวลา)
- ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน (มอบหมายให้คนอื่นทำ)
- ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน (หลีกเลี่ยงหรือเลื่อนออกไป)
ตัวอย่าง:
หากคุณมีการประชุมที่สำคัญและต้องเสร็จสิ้นงานที่มีกำหนดเวลา การประชุมจะเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในขณะที่การตอบอีเมล์ที่ไม่สำคัญสามารถเลื่อนออกไปได้
เคล็ดลับ:
– ใช้รายการ To-Do List และระบุลำดับความสำคัญของแต่ละงาน
3. ใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดการเวลา
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสามารถช่วยให้เราจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ช่วยจัดระเบียบกิจกรรมและติดตามเวลาของเรา
เครื่องมือที่แนะนำ:
- Google Calendar ใช้ในการตั้งการเตือนความจำสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ
- Trello หรือ Asana ใช้ในการจัดการโครงการและงานที่ต้องทำ
- Pomodoro Technique ใช้ในการแบ่งเวลาทำงานเป็นช่วง ๆ โดยตั้งเวลา 25 นาทีทำงานและพัก 5 นาที
เคล็ดลับ:
- ตั้งการเตือนล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มงานสำคัญ เพื่อไม่ให้ลืมกิจกรรมสำคัญ
- ใช้แอปที่ช่วยจัดการงานหลาย ๆ งานในเวลาเดียวกันเพื่อไม่ให้คุณพลาดงานใดงานหนึ่ง
4. ตั้งเวลาเพื่อการพักผ่อน
การทำงานหนักเป็นสิ่งสำคัญ แต่การให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนก็ไม่แพ้กัน การพักผ่อนจะช่วยให้สมองและร่างกายของคุณกลับมามีพลัง พร้อมรับมือกับภารกิจที่เหลืออยู่ในวันนั้น เพราะถึงจะมีเวลา 48 ชม.จริงๆ สุดท้ายแล้วร่างกายของเราก็ไม่มีพลังงานมากพอในการใช้ชีวิตถึง 48 ชม. อยู่ดีครับ
วิธีการ:
- กำหนดเวลาพักกลางวันอย่างชัดเจน เช่น การพัก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงในช่วงบ่าย
- จัดเวลาในแต่ละวันให้มีการพักผ่อน เช่น การนอนหลับให้เพียงพอ และการหยุดทำงานเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
เคล็ดลับ:
- หลีกเลี่ยงการทำงานในช่วงเวลาพัก เพื่อให้การพักผ่อนมีประสิทธิภาพที่สุด
- สร้างกิจกรรมที่ทำให้คุณผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือออกไปเดินเล่นในที่ธรรมชาติ
5. หมั่นประเมินผลและปรับปรุงการจัดการเวลา
การจัดการเวลาไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำได้แค่ครั้งเดียวและจบไป การประเมินผลการใช้เวลาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงวิธีการจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว
วิธีทำ:
- ทุกสัปดาห์ให้ทบทวนงานที่เสร็จสิ้นและงานที่ค้างคา
- ประเมินว่าคุณใช้เวลาไปกับสิ่งที่สำคัญจริง ๆ หรือไม่ และปรับการใช้เวลาให้เหมาะสม
เคล็ดลับ:
- จดบันทึกสิ่งที่ทำได้ดีและสิ่งที่ควรปรับปรุง
- ใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การทำ Time Audit เพื่อดูว่าเวลาของคุณหมดไปกับสิ่งไหนบ้าง
สรุป
การจัดการเวลาให้สามารถทำทุกอย่างเสร็จใน 1 วัน หรือทำทุกอย่างที่ต้องทำภายใน 1 วันจะไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเรามีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และเรียงลำดับความสำคัญให้ดี รวมถึงการใช้เทคโนโลยียิ่งช่วยให้เราสามารถใช้เวลาได้อย่างสมดุล และมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกข้อก็ได้ อย่างน้อยๆทำเพียงข้อ 1 และข้อ 2 ก็จะสามารถมีเวลาที่มากขึ้นได้แน่นอนครับ
ส่วนใครไม่อยากทำงานแล้ว อยากอยู่เฉยๆสบายๆ ปล่อยไลฟ์สไตล์แบบสโลไลฟ์ก็ลองเข้ามาเลือกซื้อหวยต่างประเทศกับเราได้ครับ หรือจะเป็นหวยไทย ลาว เวียดนามเราก็มีนะ จะเป็นอเมริกา สิงคโปร์ จีน หรืออื่นๆ เราก็มีเช่นกัน